ในงานอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง อุปกรณ์ช่วยยก (Lifting Accessories) เช่น Sling, Hook และ Shackle เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการยกและเคลื่อนย้ายวัสดุหรือวัตถุที่มีน้ำหนักมาก หากเลือกใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะสม หรือใช้งานโดยขาดความรู้ความเข้าใจ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อผู้ปฏิบัติงานและความเสียหายต่อทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้ การเลือกอุปกรณ์ช่วยยกอย่างถูกต้องและการใช้งานอย่างปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
อุปกรณ์ช่วยยก คืออะไร
อุปกรณ์ช่วยยก (Lifting Accessories หรือ Lifting Gear) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับเครนหรือรอกในการจับ ยก เคลื่อนย้าย หรือปรับตำแหน่งของวัสดุ ซึ่งไม่รวมถึงเครื่องยกหลัก (เช่น เครน) แต่จะรวมถึงอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงจากตะขอของเครนเพื่อจับกับภาระ (Load)
อุปกรณ์ที่ใช้บ่อย ได้แก่
-
Sling (สายยก)
-
Hook (ตะขอยก)
-
Shackle (กิ๊บต่อหรือกิ๊บล็อก)
-
Eye bolts, Turnbuckles, Chain blocks ฯลฯ
ในบทความนี้จะเน้น Sling, Hook และ Shackle เป็นหลัก
1.Sling (สายยก)
ประเภทของ Sling
Sling มีหลากหลายชนิดที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็นหลักๆ ดังนี้
1. Wire Rope Sling (สายสลิงเหล็ก):
ทำจากลวดเหล็กกล้า มักใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น งานยกชิ้นส่วนโลหะหนัก
2. Chain Sling (สายโซ่):
ทนทานต่อแรงดึงสูงและทนความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการยกภาระที่มีความคม หรือมีโอกาสเสียดสีบ่อย
3. Webbing Sling (สายผ้าไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์):
น้ำหนักเบา ไม่ทำลายผิวของวัสดุที่ยก เหมาะกับวัตถุที่บอบบาง เช่น เครื่องจักรกลที่มีผิวเคลือบ
4. Round Sling (สายกลม):
ภายในเป็นเส้นใยต่อเนื่อง หุ้มด้วยปลอกผ้า เหมาะสำหรับงานยกทั่วไป มีความยืดหยุ่นสูง
เกณฑ์การเลือกใช้ Sling
-
น้ำหนักของภาระ (Load Weight): ต้องเลือก Sling ที่มีค่า WLL (Working Load Limit) เหมาะสม
-
ลักษณะการยก (Lifting Method): เช่น Vertical, Choker หรือ Basket
-
สภาพแวดล้อมในการใช้งาน: เช่น อุณหภูมิ ความชื้น การสัมผัสสารเคมี
-
วัสดุของภาระ: หากเป็นโลหะหรือวัตถุคม ควรหลีกเลี่ยง Webbing Sling
-
ความถี่ในการใช้งาน: งานที่ใช้งานบ่อยควรใช้วัสดุที่ทนทาน เช่น สลิงเหล็ก
2. Hook (ตะขอยก)
ประเภทของ Hook
1. Eye Hook:
มีห่วงสำหรับต่อกับโซ่หรือสลิง
2. Clevis Hook:
มีหูสำหรับต่อกับโซ่โดยตรง ไม่ต้องใช้ Shackle
3. Swivel Hook:
หมุนได้อิสระ ช่วยลดการบิดเกลียวของสลิง
4. Latch Hook:
มีตัวล็อกกันสลิงหลุด เหมาะสำหรับงานที่เน้นความปลอดภัยสูง
เกณฑ์การเลือกใช้ Hook
-
น้ำหนักภาระ: ต้องดูค่า WLL ของ Hook
-
ความเข้ากันกับอุปกรณ์อื่น: Hook ควรมีขนาดและชนิดที่เชื่อมต่อกับ Sling และ Load ได้พอดี
-
ความถี่ในการใช้งาน: งานที่ใช้ตลอดวันควรเลือก Hook ที่ทนต่อแรงกระแทกและการหมุน
-
ข้อกำหนดของมาตรฐาน: Hook ควรผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ASME B30.10
3. Shackle (กิ๊บล็อก)
ประเภทของ Shackle
1. Anchor Shackle (Bow Shackle):
โค้งกว้าง เหมาะสำหรับงานที่ต้องเปลี่ยนทิศทางของแรงยก
2. Chain Shackle (D Shackle):
รูปตัว D รับแรงในแนวตรงได้ดี ไม่เหมาะกับแรงเฉียง
3. Screw Pin Shackle:
เปลี่ยนง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องถอดเข้าออกบ่อย
4. Bolt-Type Shackle:
มีสลักและน็อตล็อก ใช้งานในงานถาวร
เกณฑ์การเลือกใช้ Shackle
-
การรับน้ำหนัก: WLL ต้องสอดคล้องกับภาระ
-
การติดตั้งและถอดเปลี่ยน: หากต้องถอดบ่อยควรใช้ Screw Pin
-
ลักษณะของแรง: เลือก Anchor หรือ Chain Shackle ให้เหมาะกับแนวแรง
-
มาตรฐานความปลอดภัย: ควรใช้ Shackle ที่ผลิตตามมาตรฐาน ANSI, ASME หรือ BS
ข้อควรระวังในการใช้งานอุปกรณ์ช่วยยก
แบ่งออกเป็น ก่อนใช้งาน ระหว่างการใช้งาน และ หลังใช้งาน
1. ตรวจสอบก่อนใช้งาน
-
ตรวจสอบสภาพภายนอก เช่น สนิม, รอยแตก, การเสียรูป
-
ตรวจสอบอุปกรณ์ว่ามีเครื่องหมายแสดง WLL หรือไม่
-
ตรวจสอบการเชื่อมต่อของทุกชิ้นส่วน เช่น การขันเกลียวของ Shackle
-
ตรวจสอบความเข้ากันของอุปกรณ์แต่ละชิ้น
2. ระหว่างการใช้งาน
-
ห้ามใช้อุปกรณ์ยกน้ำหนักเกิน WLL
-
ห้ามบิด, ขัด, หรือผูกมัด Sling โดยไม่จำเป็น
-
ห้ามใช้อุปกรณ์ที่เสียหายหรือสงสัยว่าผิดปกติ
-
หลีกเลี่ยงการยืนใต้ภาระที่กำลังยก
-
ห้ามหมุนหรือกระตุกเครนหรือรอกขณะยกภาระ
-
ห้ามปล่อยให้ภาระหมุนหรือแกว่งอย่างรุนแรง
3. หลังการใช้งาน
-
ทำความสะอาดอุปกรณ์หลังใช้งาน
-
เก็บรักษาในที่แห้ง ไม่เปียกชื้น
-
บันทึกการใช้งานและการตรวจสอบตามระยะเวลา
ตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียอุปกรณ์ช่วยยก: Sling, Hook, Shackle (แยกหมวดหมู่)
หมวดหมู่ | Sling (สลิง) | Hook (ตะขอ) | Shackle (ข้อเหวี่ยง) |
---|---|---|---|
ความแข็งแรง | ✅ รองรับน้ำหนักสูง โดยเฉพาะสลิงลวดและโซ่ ❌ สลิงผ้าทนทานน้อยกว่า |
✅ แข็งแรง เหมาะกับงานรับน้ำหนักกลาง-หนัก ❌ ถ้าเปิดบานเกินขนาดจะอ่อนแรง |
✅ แข็งแรงมาก เหมาะกับงานยึดโยงแน่นหนา ❌ ขนาดเล็กอาจรับน้ำหนักไม่พอ |
ความสะดวกในการใช้งาน | ✅ ยืดหยุ่น ปรับรูปทรงได้ตามชิ้นงาน ❌ ต้องใช้ทักษะผูกและจัดวางให้ถูกต้อง |
✅ ติดตั้งง่ายและเร็ว ✅ บางรุ่นหมุนได้ ❌ ต้องเลือกขนาดพอดี |
✅ ถอด-ประกอบง่ายด้วยพิน ❌ บางประเภทขันแน่น-คลายลำบาก |
ความปลอดภัย | ✅ ไม่ทำให้ชิ้นงานเสียหายง่าย (สลิงผ้า) ❌ เส้นลวดขาด เสี่ยงสูงหากตรวจสอบไม่ดี |
✅ มี Safety Latch ในรุ่นมาตรฐาน ❌ ตะขอไม่มีลิ้นล็อกเสี่ยงหลุด |
✅ พินล็อกแน่นหนา ❌ ต้องขันแน่น ถ้าไม่แน่นอาจหลุด |
การบำรุงรักษา | ✅ ดูแลง่าย (สลิงผ้า) ❌ ต้องตรวจสอบสภาพบ่อย ❌ ผ้าไหม้-ขาดง่าย |
✅ ดูแลน้อย ❌ ต้องตรวจสอบการเปิดบานหรือสึกหรอ |
✅ ดูแลง่าย ตรวจเช็คพิน ❌ ถ้าเกิดสนิมหรือบิดงอ ต้องเปลี่ยนทันที |
ความหลากหลายและการใช้งาน | ✅ มีหลายชนิดและขนาด ✅ เหมาะกับงานหลากหลายรูปทรงและพื้นผิว |
✅ เหมาะงานที่ต้องเกี่ยวและปลดบ่อย ❌ ไม่เหมาะงานที่ต้องผูกหรือพัน |
✅ เหมาะงานเชื่อมต่อระบบยก ✅ ใช้ได้ทั้งงานชั่วคราวและถาวร |
ต้นทุนและความคุ้มค่า | ✅ ราคาหลากหลายตามวัสดุและขนาด ❌ สลิงผ้าราคาถูกแต่ทนไม่ดี |
✅ ราคาปานกลาง ❌ รุ่นที่มี Safety Latch ราคาสูงกว่า |
✅ ราคาสูงกว่า Hook เล็กน้อย ✅ อายุการใช้งานยาวนาน |
สรุป
-
Sling: เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนักหลายรูปแบบ แต่ต้องการการตรวจสอบบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
-
Hook: เหมาะกับงานยกที่ต้องการความรวดเร็วและการเกี่ยว-ปลดง่าย แต่ต้องระวังการหลุดของภาระหากไม่มี Safety Latch
-
Shackle: เหมาะกับงานเชื่อมต่อที่ต้องการความแข็งแรงและความปลอดภัยสูง แต่ต้องตรวจสอบความแน่นของพินและอุปกรณ์เสมอ
เพื่อให้งานยกของคุณปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ศูนย์ฝึกอบรม CranePro เปิดสอนหลักสูตร “อบรมเครน” สอนโดยทีมวิทยากรมืออาชีพที่ได้รับการรับรอง พร้อมใบประกาศนียบัตรหลังจบหลักสูตร
📞 ติดต่อเราเพื่อสอบถามหลักสูตรหรือจองอบรมได้ที่:
โทร: 089-870-9778