การทำงานหรือการประชุม สิ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือความตรงต่อเวลา หลายๆ ครั้งแม้ว่าเราจะความจำดีมากแค่ไหนก็อาจจะมีโอกาสลืมได้ หรืออาจจะจำวันผิด ดังนั้นสำหรับใครที่มีงานเยอะ หรือมีนัดหมายการประชุมเยอะ ซอฟแวร์และโปรแกรมในการนัดหมายต่างๆ ก็สำคัญอย่างมากเช่นเดียวกัน
1. Microsoft Outlook
ฟีเจอร์น่าสนใจ : ฟังก์ชันอีเมลและปฏิทินที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณสามารถนำข้อมูลจากอีเมลมาทำเป็นนัดหมายในปฏิทินได้อย่างง่ายดาย เช่น ข้อมูลวันที่และเวลา รายละเอียดการประชุม หัวข้อการทำงานต่างๆ
เหมาะกับใคร? : นักธุรกิจ ฟรีแลนซ์หรือธุรกิจที่ใช้ Microsoft Office Suite อยู่แล้ว
จุดเด่น
- สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมจาก Microsoft ได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่ต้องหัดใช้ใหม่ ไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำเพราะสามารถดึงข้อมูลจากซอฟแวร์อื่นๆ มาได้เลยแบบออโต้
- ฟีเจอร์ที่ครอบคลุมสำหรับการจัดการอีเมล ปฏิทิน และข้อมูลด้านการทำงานต่างๆ
- อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย โดยเฉพาะใครที่ใช้งานโปรแกรม Microsoft Office อยู่แล้ว
จุดพิจารณา
- ฟีเจอร์ที่มีความซับซ้อน ทำให้อาจจะใช้งานค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่หรือใครที่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์เยอะขนาดนั้น
- ต้องสมัครสมาชิก Office 365 เพื่อใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบ
2. Google Calendar
ฟีเจอร์น่าสนใจ : อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสามารถใช้งานร่วมกับซอฟแวร์หรือโปรแกรมของ Google Workspace ได้เป็นอย่างดี
เหมาะกับใคร? : การใช้งานส่วนบุคคล มืออาชีพ และธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องมือกำหนดเวลาที่เรียบง่ายและฟรี โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Google Workspace อยู่แล้ว
จุดเด่น
- อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย
- ใช้งานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับ Gmail และบริการอื่นๆ ของ Google
- ฟรีสำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐาน
จุดพิจารณา
- คุณสมบัติขั้นสูงมีจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับซอฟแวร์อื่นๆ ทำให้ในการใช้งานด้านธุรกิจอาจจะต้องเสียเงินใช้ถึงจะคุ้มค่า
- จำเป็นต้องใช้งาน Google Workspace ถึงจะเต็มประสิทธิภาพ
3. Calendly
ฟีเจอร์น่าสนใจ : การตั้งเวลาอัตโนมัติพร้อมใช้งานร่วมกับปฏิทินส่วนตัวหรือซอฟแวร์ปฏิทินอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ผู้อื่นสามารถเข้ามาใช้งานด้วยได้ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
เหมาะกับใคร? : นักธุรกิจ และธุรกิจที่จำเป็นต้องให้ลูกค้าเข้ามาเช็คคิวได้ เข้ามาตรวจสอบเกี่ยวกับการนัดหมายได้ หรืออาจจะเข้ามาจองคิว
จุดเด่น
- ไม่จำเป็นต้องใช้บัญชี ขอแค่มีลิงค์ก็ใช้งานได้
- การตั้งค่าที่ค่อนข้างอิสระ
- ใช้งานร่วมกับปฏิทินต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
จุดพิจารณา
- เวอร์ชันฟรีมีฟีเจอร์ค่อนข้างจำกัด
- อาจมีความยืดหยุ่นน้อย ฟีเจอร์ที่ไม่ได้เยอะมากแม้ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นเสียเงินก็ตาม
4. Doodle
ฟีเจอร์น่าสนใจ : ฟีเจอร์การเปิดโพลแบบสาธารณะเพื่อค้นหาเวลาการประชุมที่ดีที่สุดสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน
เหมาะกับใคร? : บุคคลและธุรกิจที่จัดการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้เข้าร่วมมีกำหนดการที่แตกต่างกัน
จุดเด่น
- ลดความยุ่งยากในการจัดการเวลาหรือการนัดหมายเพราะทุกคนสามารถวางแผนการทำงานร่วมกันได้
- อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
- ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีสำหรับผู้เข้าร่วม
จุดพิจารณา
- การปรับแต่งที่ค่อนข้างจำกัด
- ในเวอร์ชั่นฟรีอาจจะมีโฆษณารบกวนระหว่างการใช้งาน
5. Acuity Scheduling
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ : ลูกค้าสามารถกำหนดเวลาได้ด้วยตัวเองหากมีลิงค์สำหรับเข้าถึงปฏิทิน และสามารถที่จะกรอกข้อมูลด้านการชำระเงินต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
เหมาะกับใคร? : ธุรกิจที่ให้บริการ นักแปลอิสระ และมืออาชีพที่ต้องการจัดการการนัดหมายกับลูกค้า
จุดเด่น
- ลูกค้าสามารถจองการนัดหมายของตนเองได้แบบเรียลไทม์
- สามารถใช้งานเพื่อชำระเงิน หรือยืนยันสลิปต่างๆ ได้
จุดพิจารณา
- อาจมีฟีเจอร์หลากหลายมากกว่าที่จำเป็น ทำให้อาจจะค่อนข้างใช้งานยาก
- อินเทอร์เฟซเยอะเกินไป ทำให้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณอาจจะกระตุกได้
บทความที่น่าสนใจ :
- 5 เทคนิคการสร้างห้องประชุมสมัยใหม่
- ประหยัดงบเครื่องเสียงร้านอาหารด้วยเทคนิคเหล่านี้
- เทคนิคการตั้งราคาสำหรับร้านอาหาร ดึงดูดลูกค้าโดยไม่ขาดทุน
- อุปกรณ์สำคัญสำหรับระบบเสียงในร้านอาหาร (นอกเหนือจากเครื่องเสียง)
- ระบบเสียงที่ออกแบบมาอย่างประณีตสำหรับร้านอาหาร